วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัด
บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน                                  กลุ่มที่เรียน4
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                                รหัสวิชา0026 008
ชื่อ นายทิวากร  อ่อนสา            รหัส 56010315116      คณะวิศวกรรมศาสตร์

1. การประยุกต์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นความหมายของข้อใด?
  1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
  2. เทคโนโลยี
  3. สารสนเทศ
  4. พัฒนาการ
2.เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม?
  1. ควบคุมเครื่องปรับอากาศ
  2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
  3. การสร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
  4. การพยากรณ์อากาศ
3.การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด?
  1. ระบบอัตโนมัติ
  2. เปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
  3. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินงานในหน่วยงานต่างๆ
  4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
4.ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ?
  1. ระบบการถ่ายโอนการเงินผ่านอินเทอร์เน็ต
  2. บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต
  3. การติดต่อข้อมูลผ่านเครือข่าย
  4. ถูกทุกข้อ
5.เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด?
  1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
  2. ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
  3. การนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มเติมให้สารสนเทศ
  4. การนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้จัดเก็บข้อมูล
6.เครื่องมือที่สำคัญในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?
  1. เทคโนโลยีการสื่อสาร
  2. สารสนเทศ
  3. คอมพิวเตอร์
  4. ถูกทุกข้อ
7.ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?
  1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  2. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเปลี่ยนการสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้านหรือสอบถามผลสอบได้
  3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ผู้คนทุกระดับติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
  4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ
 8.ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?
  1. เครื่องถ่ายเอกสาร
  2. เครื่องโทรสาร
  3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์
  4. โทรทัศน์ วิทยุ
9.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ?
  1. เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
  2. พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทาง ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และการสื่อสาร
  3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
  4. จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
10.ข้อใดคือประโยชน์ของการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน
  1. ตรวจสอบผลการลงทะเบียน ผลการสอบได้
  2. สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้
  3. ติดต่อกับเพื่อน ครู อาจารย์ หรือส่งงานได้ทุกที่
  4. ถูกทุกข้อ

สังคมสารสนเทศ

สังคมสารสนเทศ (Information Society)

           สังคมสารสนเทศ คือ สังคมที่มีการติดต่อสื่อสารกันรวดเร็วและประหยัดต้นทุนในการติดต่อสื่อสารกัน เช่น Facebook Twitter Hi5 ที่ทุกๆคนใช้กันอยู่ นับได้ว่าทุกวันนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักสังคมสารสนเทศ ยุคสังคมสารสนเทศหรือสังคมข่าวสาร  เป็นสังคมที่มีการใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจทั้งเพื่อประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม ในสังคมสารสนเทศจะทำให้เราได้รับสารสนเทศที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการและทันเวลา สังคมสารสนเทศ เราสามารถแบ่งกลุ่มเทคโนโลยีต่างๆ ที่จัดอยู่ในประเภทเทคโนโลยีสารสนเทศได้ดังนี้ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีโทรคมนาคมหรือการสื่อสารข้อมูล
 ลักษณะของสังคมสารสนเทศ พอจะประมวลได้ดังนี้

1) สังคมสารสนเทศเป็นสังคมที่มีการผลิตหลักเป็นข้อมูลข่าวสาร  แทนที่จะเป็นการผลิตสินค้าจากโรงงานเหมือนในสังคมอุตสาหกรรม
2) เป็นสังคมที่ถือว่าข้อมูล ที่ใครที่รู้ก่อนก็จะเป็นคนที่ได้ได้เปรียบ
3) เป็นสังคมที่มีการใช้สารสนเทศที่บันทึกอยู่บนสื่อที่เป็นเอกสาร สิ่งพิมพ์ และไม่ตีพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เสียงภาพ 
4)เป็นสังคมที่ต้องพึ่งพึงเครือข่ายการสื่อสารและข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อน
5) เป็นสังคมที่มีการทุ่มทรัพยากรให้กับข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมการสื่อสาร
6) สื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ จะค่อย ๆ บูรณาการเข้ากับสื่อใหม่ทางอินเตอร์เน็ท
7) เป็นสังคมที่ผู้ใช้สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ด้วยตนเองทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม อันนำมาซึ่งการเพิ่มผลผลิตและการเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบการด้านต่างๆ

8) เป็นสังคมที่มีการติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็ว และถึงจะอยู่ไกลกันแค่ไหนก้อติดต่อกันได้                    เช่น ติดต่อกันผ่านทาง Facebook

เทคโนโลยีสารสนเทศ โครงสร้างหลักของสังคมสารสนเทศเปรียบเหมือนดาบสองคมที่ทำให้เกิดผลที่กำลังเกิดและอาจเกิดตามมาทั้งดีและเสียที่พึงระวังดังนี้


ผลดี

            1. ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์                                                                                       
2. ช่วยทำให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น          
3. ช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้นคว้าวิจัยสิ่งใหม่          
4. ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น          
5. ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์           
6. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง             
7. ช่วยให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน         
8. ช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย 

ผลเสีย
1. ทำให้เกิดอาชญากรรม             
2. ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย             
3. ทำให้เกิดความวิตกกังวล             
4. ทำให้เกิดความเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ             
5. ทำให้การพัฒนาอาวุธมีอำนาจทำลายสูงมากขึ้น             
6. ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว

การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน

การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิผล มีมากมายหลายด้าน ได้แก่
1. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานสำนักงาน ปัจจุบันสำนักงานได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อให้งานในสำนักงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น กล่าวคือ ทำให้งานมีความสะดวกรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้ในงานสำนักงาน ได้แก่ เครื่องพิมพ์ดีด อิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์ เครื่องถ่ายเอกสาร ผลิตภัณฑ์เหล่านี้นำไปประยุกต์ใช้กับงานสำนักงานได้หลายลักษณะ เช่น
        1.1 งานจัดเตรียมเอกสาร เป็นการใช้เครื่องประมวลผลคำหรือเครื่องประมวลผลเนื้อหา เป็นเครื่องมือในการจัดเตรียม อุปกรณ์ประกอบการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ โมเด็ม และช่องทางการสื่อสาร ระบบประมวลผลคำ แบ่งออกได้ 2 ระบบ คือ
            1.1.1 ระบบเดี่ยว (Stand – alone) เป็นระบบที่สามารถประมวลผลได้ภายในคอมพิวเตอร์ชุดเดียว หรือจะเชื่อมโยงไปยังคอมพิวเตอร์อื่น ๆ
            1.1.2 ระบบเชื่อมโยงกับข่ายการสื่อสาร เป็นระบบที่มีการเชื่อมโยงสารสนเทศซึ่งกันและกันผ่านเครือข่ายโทรคมนาคม เช่น เครือข่ายโทรศัพท์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์

        1.2 งานกระจายเอกสาร เป็นการกระจายข้อมูลสารสนเทศไปยังผู้ใช้ ณ จุดต่าง ๆ อาจกระทำโดยการเชื่อมโยงผ่านเครือข่ายโทรคมนาคม อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถปฏิบัติงานกระจายเอกสารได้โดยอัตโนมัติ ได้แก่ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

        1.3 งานจัดเก็บและค้นคืนเอกสาร สามารถทำได้ทั้งระบบออฟไลน์และระบบออนไลน์ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือผ่านเครือข่ายโทคมนาคมรูปแบบอื่น เช่นระบบฐานข้อมูลเป็นต้น
    
        1.4 งานจัดเตรียมสารสนเทศในลักษณะภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ดำเนินงานดังกล่าว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องสแกนเนอร์ โทรทัศน์
        1.5 งานสื่อสารสนเทศด้วยเสียง เช่น โทรศัพท์ การประชุมทางโทรศัพท์
        1.6 งานสื่อสารสนเทศด้วยภาพและเสียง เช่น ระบบมัลติมีเดีย ระบบการประชุมทางไกลด้วยภาพและเสียง เป็นต้น

2. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรมนำเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเข้ามาช่วยในการจัดการระบบงานการผลิต การสั่งซื้อ การพัสดุการเงิน บุคลากร และงานด้านอื่น ๆ ในโรงงาน

3. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของเครื่องเบิกถอนเงินอัตโนมัติ เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอนเงิน และนำคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลน์เข้ามาช่วยในการทำงานประจำวันของธนาคารด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลของธนาคารต่างสาขา ต่างธนาคาร ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเบิก ถอน โอนเงินชำระเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้โดยสะดวก
4. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านการสื่อสาร ได้แก่ การบริการโทรศัพท์วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิลทีวี การค้นคืนสารสนเทศระบบออนไลน์ ดาวเทียม และโครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิตอล

5. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านสาธารณสุข เช่น
        5.1 ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล ถูกนำมาใช้ในระบบงานเวชระเบียน ระบบข้อมูลยาการรักษาพยาบาล การคิดเงิน รวมทั้งการส่งเวชระเบียนผ่านระบบโทรคมนาคมที่อาจเรียกว่า โทรเวชได้
        5.2 ระบบสาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศถูกนำมาใช้ในการดูแลรักษาโรคระบาดในท้องถิ่น เช่น เมื่อมีผู้ป่วยโรคอหิวาตกโรคในหมู่บ้าน ซึ่งอาจกลายเป็นโรคระบาดได้
        5.3 ระบบผู้เชี่ยวชาญ เป็นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการวินิจฉัยโรค เช่น ระบบ Mycinของมหาวิทยาลัยสแดนฟอร์ด โดยเริ่มมาใช้ในการวินิจฉัยโรคพืชและโรคสัตว์ ที่ใช้หลักการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้โดยละเอียดแล้วใช้หลักปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยวิเคราะห์ เป็นแนวคิดในการทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เหมือนมนุษย์


6. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานด้านการฝึกอบรมการศึกษา ดังนี้
        6.1 การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็นการนำเอาคำอธิบายบทเรียนมาบรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์ แล้วนำบทเรียนนั้นมาแสดงแก่ผู้เรียน เมื่อผู้เรียนอ่านคำอธิบายเหล่านั้น คอมพิวเตอร์จะมีส่วนที่ใช้ทดสอบความเข้าใจของผู้เรียนด้วยว่าถูกต้องหรือไม่ หากเข้าใจไม่ถูกต้องคอมพิวเตอร์จะทำการอธิบายเนื้อหาเพิ่มเติมให้เข้าใจมากขึ้น แล้วถามซ้ำอีก
        6.2 การศึกษาทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการจัดการศึกษาทางไกลมีหลายแบบตั้งแต่แบบง่าย ๆ เช่น การเรียนการสอนผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ออกอากาศให้ผู้เรียนศึกษาเอง ตามเวลาที่ออกอากาศ ไปจนถึงใช้ระบบแพร่ภาพการสอนผ่านดาวเทียม หรือการประยุกต์ใช้ระบบประชุมทางไกล โดยผู้สอนและผู้เรียนสามารถสื่อสารถึงกันได้ทันที่ เพื่อสอบถามข้อสงสัยหรืออธิบายคำสอน เพิ่มเติม
        6.3 เครือข่ายการศึกษา เป็นการจัดทำเครือข่ายการศึกษาเพื่อให้ครูอาจารย์และนักศึกษามีโอกาสใช้เครือข่ายเพื่อแสวงหาความรู้ที่มีอยู่มากมายในโลก และใช้บริการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ทาง การศึกษา เช่น บริการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail : E-mail) การเผยแพร่และค้นหา ข้อมูลในระบบเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web)

        6.4 การใช้งานในห้องสมุด มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการดำเนินงานโดยมีเครือข่ายต่าง ๆ ที่ให้การส่งเสริมสนับสนุนในการให้บริการห้องสมุด การนำเทคโนโลยี
สารสนเทศมาใช้ในห้องสมุดให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการยืม คืน การค้นหาหนังสือ วารสาร สิ่งพิมพ์ หรือการค้นหาข้อมูลที่ต้องการทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมาก
        6.5 การใช้งานในห้องปฏิบัติการ มีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำงานในห้องปฏิบัติการร่วมกับอุปกรณ์เครื่องมืออื่น ๆ เช่น การจำลองแบบ การออกแบบวงจรไฟฟ้า การ ควบคุม การทดลอง
        6.6 การใช้ในงานประจำและงานบริหาร เช่น การจัดทำทะเบียนประวัติของนักเรียน นักศึกษา การเลือกวิชาเรียน การลงทะเบียนเรียน การแสดงผลการเรียน การแนะแนวอาชีพ การแนะแนวการศึกษาต่อ การเก็บข้อมูลผู้ปกครองหรือข้อมูลครู ซึ่งทำให้ครูอาจารย์สามารถติดตามและดูแล นักเรียนได้ใกล้ชิดมากขึ้น รวมทั้งครูอาจารย์สามารถพัฒนาตนเองได้สูงขึ้น
แบบฝึกหัด
บทที่ การจัดการสารสนเทศ                                                                  กลุ่มเรียนที่ 4
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                    รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ - สกุล  นายทิวากร  อ่อนสา                             รหัส 56010315116
คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ
     การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา และเผยแพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การจายของสารสนเทศ ทั้งภานในและภายนอกองค์การโดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมาใช้ในการจัดการ รวมทั้งมีนโยบาย หรือ กลยุทธ์ระดับองค์การในการจัดการสารสนเทศ


2. การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร
        การจัดการสารสทเทศมีความสำคัญต่อบุคคลในด้านการดำรงชีวิตประจำวัน การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพต่างๆ การจัดการสารสนเทศอย่างเป็นระบบ โดยการจัดทำข้อมูลส่วนบุคคลรวบรวมทั้งข้อมูลการดำรงชีวิต การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพต่าง ๆ ในการดำรงชีวิตประจำวัน บุคคลย่อมต้องการสารสนเทศหลายด้านเพื่อใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น มีความก้าวหน้า และมีความสุข อาทิ ด้องการสารสนเทศเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ ต้องจัดการค่าใช้จ่ายในครอบครัว ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล การดูแลอาคารที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ตลอดจนการเลี้ยงดูคนในครอบครัวให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ
        การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อองค์การในด้านความสำคัญทางด้านการบริหารการจัดการ เป็นการบริหารภายใต้สภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีการแข่งขันทางธุรกิจสูง ผู้บริหารต้องอาศัยสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกองค์การเพื่อวิเคราะห์ปัญหา ทางเลือกในการแก้ปัญหา การตัดสินใจ ความสำคัญในด้านการดำเนินงาน ในหลายลักษณะเป็นทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินการ และหลักฐานที่บันทึกการดำเนินงานในด้านต่างๆ ตามที่หน่วยงานดำเนินการ ความสำคัญในด้านกฏหมาย เป็นการสอดคล้องกับกฏหมาย กฏ ระเบียบและข้อบังคับทั้งระดับภายใน และระดับภายนอกองค์การ โดยเฉพาะสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และบัญชีที่ต้องรวบรวมจัดเก็บอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ รวมทั้งมีการตรวจสอบความถูกต้องทั้งจากหน่วยงานภายในองค์การ หรือจากหน่วยงานภายนอกตามกฏหมาย


3. พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง
     1. การจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ เป็นการจัดการสารสนเทศระยะแรก สื่ออยู่ในรูปแบบของสิ่งพิมพ์  การจัดการสารสนเทศเน้นระบบ  มือ โดยรวบรวมรายชื่อหนังสือที่มีการผลิตและเผยแพร่ และการจัดเก็บเอกสารระยะแรก เป็นการจัดเรียงตามขนาดของรูปเล่มหนังสือ ตามอักษรผู้แต่ง เรื่อหนังสือ เลยทะเบียน ตามลำดับก่อนหลัง และระบบการจัดเป็นแบบหมวดหมู่
       2. การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อสารสนเทศมีปริมาณมาก จากเดิมจัดเก็บในลักษณะแฟ้มข้อมูล ต่อมาได้เริ่มพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูล เพื่อเอื้อต่อการจัดการสารสนเทศได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และลดความซ้ำซ้อน นำมาใช้ในการพัฒนาเป็นระบบสารสนเทศในงานเฉพาะทางต่าง ๆ เช่น ระบบห้องสมุด


4. จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย ตัวอย่าง
     1. ใช้ในการจัดรวบรวมเอกสารข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสะดวกในการค้นหา และนำมาใช้
     2. ใช้ในการจัดหมวดหมู่เอกสารเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสามารถเข้าถึงได้ง่าย
     3. ใช้ในการบำรุงรักษาข้อมูลเก่า ๆได้ รวมถึงข้อมูลใหม่ๆ ที่มีการปรับปรุงใหม่ขึ้นเรื่อย
แบบฝึกหัดบทที่ 4 
บทที่  เทคโนโลยีสารสนเทศ                                                                กลุ่มเรียนที่ 4
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                    รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ - สกุล  นายทิวากร  อ่อนสา                             รหัส 56010315116  คณะวิศวกรรมศาสตร์


จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. ให้นิสิตยกตัวอย่าง อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด

    1.1 การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
          -  แผ่นซีดี
          -  ฮาร์ดดิสท์
          -  USB ไดร์ฟ
    1.2 การแสดงผล
          -  จอภาพ คอมพิวเตอร์
          -  จอโปรเจ็กเตอร์
          -  เครื่องพิมพ์
    1.3 การประมวลผล
          -  ซอฟต์แวร์
          -  ฮาร์ดแวร์
          -  OS
    1.4 การสื่อสารและเครือข่าย
          -  อินเตอร์เน็ต
          -  การประชุมผ่านทางจอภาพ
          -  ห้องสมุดอีเล็กทรอนิกส์

2. ให้นิสิต นำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้าย ที่มีความสัมพันธ์กัน

         ซอฟต์แวร์ประยุกต์ 

          - 8 (โปรแกรมระบบห้องสมุด จัดเป็ฯซอฟต์แวร์ประเภท..)

         Information Technology  

        - 3 ( เทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับ   สารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้อง และความรวดเร็วในการนำไปใช้)

         คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล 

       - 1 (ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล)

         เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย  

      - 6 (เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์  เทคโนโลยี การสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีอื่นๆที่เกี่ยวข้อง)
     
        ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่นต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 

      - 10 (ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ)

        ซอฟต์แวร์ระบบ 

       - 7 (โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์)

        การนำเสนอบทเรียนในรูปแบบมัลติมีเดีย ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ ตามระดับความสามารถ 

      - 9 (CAI)

       EDI 

      - 5 (การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย)

       การสื่อสารโทรคมนาคม 

     - 4 (มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน คือ Sender-Medium และ Decoder

       บริการชำระภาษีออนไลน์ 

      - 2 (e-Revenue)